เริ่มที่ข้อแรก กันน้ำขนาดไหน...
ถึงแม้ว่านาฬิกาของคุณจะมีคุณสมบัติกันน้ำ หรือสังเกตง่ายๆ ที่นาฬิกาจะเขียนคำว่า “Water Resistant” แต่ก็ไม่ควรใส่นาฬิกาเรือนโปรดว่ายน้ำ เล่นกีฬาทางน้ำหรือดำน้ำ หากไม่ใช่นาฬิกาที่ผลิตมาเพื่อกิจกรรมนั้นๆ โดยเฉพาะ เพราะนาฬิกากันน้ำสำหรับนาฬิกาทั่วๆ ไป คือ แค่กันเหงื่อหรือฝนเท่านั้น
ข้อสอง เพื่อผู้หลงใหลนาฬิกากลไก
แฟนนาฬิกากลไกนั้น สิ่งที่ควรระวังอย่างมากคือ ความสั่นสะเทือนและการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิขณะใส่ สิ่งแรกความสั่นสะเทือนควรหลีกเลี่ยงการใส่นาฬิกาในกิจกรรมที่มีแรงกระแทก หรือความสั่นสะเทือนซ้ำๆ แบบบ่อยครั้ง เช่น ใส่ตีเทนนิส, ใส่ตีสควอช, ใส่ตีกอล์ฟ หรือปั่นจักรยานเสือภูเขา เพราะถึงแม้ในนาฬิกากลไกจักรกลจะมีระบบป้องกันอยู่ แต่หากใช้ในกิจกรรมที่ว่า แรงสั่นสะเทือนในนาฬิกานั้นๆ ก็อาจจะต้านไม่ไหว อีกข้อที่ควรหลีกเลี่ยง คือ การปรับเปลี่ยนอุณหภูมิแบบฉับพลันขณะใส่นาฬิกา เช่น ใส่นาฬิกาเข้าห้องซาวน่าและต่อด้วยการไปว่ายน้ำ หรือใส่นาฬิกาอาบแดดแล้วต่อด้วยการไปว่ายน้ำ ผลเสียเหล่านี้จะส่งผลต่อการทำงานและความเที่ยงตรงของนาฬิกาในอนาคต
ข้อสาม สำหรับแฟนนาฬิกาสายหนัง
ควรหลีกเลี่ยงสายหนังสัมผัสกับสเปรย์, ครีมกันแดดเพราะสายหนังจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ และไม่ควรใส่ทุกวัน ควรถอดให้สายหนังคลายตัวและคืนรูปบ้าง ที่สำคัญควรปล่อยให้ความชื้นที่สายหนังระเหยไปให้หมดก่อนนำมาใส่ใหม่
ข้อสี่ สำหรับการปรับตั้งปฏิทินที่นาฬิกา
ถ้านาฬิกาของคุณหยุดเดินไปแล้ว คุณไม่ควรปรับตั้งเวลาและปรับตั้งปฏิทินใหม่ ระหว่างเวลา 22.00-02.00 น. เพราะอาจทำลายระบบปฏิทินของนาฬิกาได้ ส่วนผู้ที่รักการเดินทางหรือมีภารกิจที่ทำให้ต้องเดินทางบ่อย มีนาฬิกาเรือนเด่นที่ทำให้คุณสะดวกในการรับรู้วันเวลาของแต่ละประเภทได้อย่างแม่นยำ
ข้อห้า นาฬิกาซ่อมได้
แต่อย่าพยายามซ่อมนาฬิกาเอง ควรส่งให้ช่างผู้ชำนาญและมีประสบการณ์ดูแลจะดีกว่า เพราะบางทีคิดว่าซ่อมเองอาจจะถูกกว่า แต่จะกลายเป็นปัญหา “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย” ที่สำคัญควรตรวจเช็กเครื่องทุกๆ 3-4 ปี ช่างอาจจะเปลี่ยนชิ้นส่วนที่หมดอายุหรือชิ้นส่วนที่จำเป็นต้องทำความสะอาด หรือปรับอัตราการเดินของกลไกสามารถแวะให้ช่างผู้มีประสบการณ์และชำนาญเรื่องนาฬิกาดูแลได้ที่เคาน์เตอร์ “Watch Repair” (วอทช์ รีแพร์) แผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา